ทุกวันนี้การยิงแอด Facebook ไม่ใช่แค่เรื่องของงบมาก หรือ น้อย แต่เป็นเรื่องของ “กลยุทธ์” และ “ความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย” ยิ่งรู้จักวางแผนให้ดี ก็ยิ่งทำให้ยอดขายพุ่งแบบไม่ต้องเปลืองงบสักบาทเกินความจำเป็น วันนี้เราขอแชร์ 5 เทคนิคยิงแอดยังไงให้ปัง ได้ยอดจริง และไม่เจ็บตัวเรื่องงบประมาณ!
1. รู้จักกลุ่มเป้าหมายให้ลึกกว่าเดิม
ก่อนจะจ่ายเงินให้ Facebook แนะนำให้ทำความเข้าใจลูกค้าให้ชัดเจนว่า
- เขาเป็นใคร (อายุ เพศ อาชีพ ความสนใจ)
- เขาชอบอะไร มักเจอปัญหาแบบไหน
- เขาอยู่ที่ไหนในโลกออนไลน์ (Facebook Group, Page ไหน, ชอบดูคอนเทนต์อะไร)
เมื่อคุณเจาะลึกได้แบบนี้ การตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายในแอดจะตรงจุดมากขึ้น แถมไม่ต้องเสียเงินยิงไปหาคนที่ไม่สนใจ
2. เริ่มจากงบเล็ก แล้วค่อยขยาย
การยิงแอดไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นหลักพัน! แนะนำให้เริ่มต้นที่งบประมาณหลักสิบถึงหลักร้อย เพื่อทดสอบว่า
- โพสต์ไหนเวิร์ค
- กลุ่มเป้าหมายไหนคลิกเยอะ
- แอดไหนแปลงยอดขายได้จริง
เมื่อได้ผลลัพธ์ที่ดี ค่อยขยายงบไปลงกับแอดที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยประหยัดงบได้เยอะมาก
3. ทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจ และสื่อสารให้ชัด
“แอดดี = คอนเทนต์ดี” คุณต้องทำให้คนหยุดเลื่อนฟีดในเสี้ยววินาที!
- ใช้ภาพ หรือ วิดีโอที่ดึงดูดสายตา
- เขียนแคปชันสั้น กระชับ มี Call-to-Action (CTA) ชัดเจน
- เสนอข้อเสนอที่น่าสนใจ เช่น โปรโมชั่น, ส่งฟรี, มีจำนวนจำกัด
อย่าลืมใส่ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ ไม่ใช่แค่บรรยายสินค้าเท่านั้น
4. ใช้ Facebook Pixel และ Retargeting ให้เป็น
หลายคนยิงแอดรอบเดียวแล้วจบ ทั้งที่ความจริงแล้วลูกค้าส่วนใหญ่มักไม่ตัดสินใจซื้อในครั้งแรก!
แนะนำให้ติด Facebook Pixel บนเว็บไซต์ หรือ หน้าเช็คเอาท์ เพื่อเก็บข้อมูลผู้ชม แล้วนำมาทำ Retargeting Ads (ยิงโฆษณาซ้ำ) เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจอีกครั้ง เช่น
- คนที่เคยดูสินค้า
- คนที่เคยหยิบสินค้าใส่ตะกร้าแต่ยังไม่ซื้อ
- คนที่เคยทักแชทแล้วหายไป
ยิงแอดซ้ำให้ถูกจังหวะ ยอดขายมาบ่อยแบบไม่ต้องหาลูกค้าใหม่ตลอด
5. วิเคราะห์ผล และปรับแผนเสมอ
ยิงแอดแล้วอย่าลืมดูผล! เข้าไปที่ Ads Manager แล้วเช็กว่าแคมเปญของคุณ
- CTR (อัตราการคลิก) ดี หรือ ไม่
- CPC (ราคาต่อคลิก) แพงไปไหม
- Conversion ได้ยอดขายตามเป้า หรือ ยัง
หากแอดไหนไม่เวิร์ค อย่าลังเลที่จะปิด! แล้วนำงบไปลงกับแอดที่ทำยอดได้ดีกว่า จะช่วยให้ใช้เงินคุ้มค่าทุกบาทแน่นอน
การยิงแอด Facebook ให้ยอดขายพุ่ง ไม่จำเป็นต้องใช้งบเยอะ แต่ต้องรู้จักวางแผนอย่างฉลาด ลองเริ่มจากเข้าใจลูกค้า ทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจ ใช้เครื่องมือช่วยให้เป็น แล้ววิเคราะห์ผลอย่างต่อเนื่อง รับรองว่าคุณจะได้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างคุ้มค่าแน่นอน 💸📈
แต่ถ้าหากอยากฟีเจอร์ระบบหลังบ้านกว่า 100 ฟีเจอร์ ที่สามารถช่วยในการขายของออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีบริการขนส่งในราคาพิเศษ ถูกกว่าไปส่งเองที่หน้าร้าน และยังสามารถเรียกรถเข้ารับฟรีได้ถึงหน้าบ้าน ต้องมาใช้งานระบบ iShip แถมระบบยังใช้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน! สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line: @iShip หรือ เพจ Facebook IShip ระบบจัดการรวมขนส่งออนไลน์ ได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น. ครับผม
SHARE