วิเคราะห์ ‘พฤติกรรมนักลงทุน’ ทำไมเจ้าสัวคณิน ถึงพลาดโอกาสสร้างธุรกิจระดับ Unicorn ด้วยมือตัวเอง?

ในโลกธุรกิจที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา การเป็นผู้นำตลาดไม่ได้การันตีความสำเร็จเสมอไปครับ บางครั้ง ความผิดพลาดเล็กๆ หรือ การยึดติดกับแนวคิดเดิม ๆ ก็สามารถทำให้เราพลาดโอกาสทองระดับ “ยูนิคอร์น” ได้อย่างน่าเสียดาย เหมือนกับเรื่องราวของ เจ้าสัวคณิน ในซีรีส์ “Mad Unicorn สงครามส่งด่วน” นี่แหละครับ

เจ้าสัวคณินคือ ตัวอย่างที่น่าสนใจของนักธุรกิจใหญ่ที่มองเห็นศักยภาพในตัวคนอย่าง สันติ แซ่ลี ในตอนแรก แต่กลับตัดสินใจผิดพลาดจนเสียโอกาสในการสร้างธุรกิจระดับพันล้านไปในที่สุด เรามาวิเคราะห์กันครับว่าพฤติกรรมของเจ้าสัวคณินมีอะไรบ้างที่ทำให้เขาพลาดโอกาสสำคัญครั้งนี้ไปครับ

1. ‘อีโก้’ ที่ใหญ่กว่า ‘วิสัยทัศน์’

ในฐานะเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมานาน เจ้าสัวคณิน ย่อมมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงครับ และบางครั้งความสำเร็จในอดีตก็อาจทำให้เกิด “อีโก้” ที่ใหญ่เกินไป จนบดบังวิสัยทัศน์ในการมองหาโอกาสใหม่ๆ หรือ การยอมรับแนวคิดที่แตกต่างครับ

ตัวอย่างในซีรีส์: เจ้าสัวคณินมองเห็นแววของ สันติ แซ่ลี (รับบทโดย ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์) และให้โอกาสเขาเข้ามาทำงาน แต่เมื่อไอเดียของสันติเริ่มขัดแย้งกับโมเดลธุรกิจ หรือ ความเชื่อเดิมของเจ้าสัว หรือ เมื่อมีเรื่องผลประโยชน์ของลูกชายอย่าง เคน (รับบทโดย พีช พชร) เข้ามาเกี่ยวข้อง อีโก้ของเจ้าสัวก็อาจทำให้เขามองข้ามศักยภาพ และเลือกที่จะยึดติดกับสิ่งที่คุ้นเคยมากกว่าการเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงเกมได้ครับ

2. ‘การไม่ให้คุณค่าคน’ ที่เท่าเทียมกัน

แม้จะให้โอกาสสันติในตอนแรก แต่การปฏิบัติที่แตกต่างกันระหว่างสันติกับเคน ซึ่งเป็นลูกชายของตัวเอง ก็สะท้อนถึงการไม่ให้คุณค่ากับพนักงานอย่างเท่าเทียมกันครับ การมองว่าใครเป็น “คนนอก” และใครเป็น “คนใน” สามารถส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจ และความภักดีของบุคลากรได้ครับ

ตัวอย่างในซีรีส์: เมื่อสันติถูกเคนหักหลัง และขโมยไอเดียไป เจ้าสัวคณินกลับเลือกที่จะปกป้องลูกชาย หรือ มองข้ามความผิดพลาดของเคน ซึ่งทำให้สันติรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และตัดสินใจแยกตัวออกมาสร้างธุรกิจของตัวเอง การตัดสินใจนี้ทำให้เจ้าสัวพลาดโอกาสที่จะมีคนเก่งอย่างสันติอยู่เคียงข้างครับ

3. ‘การบริหารจัดการความเสี่ยง’ ที่ประเมินคู่แข่งต่ำไป

ในตอนแรก เจ้าสัวคณิน อาจมองว่า ธันเดอร์ เอ็กซ์เพรส ของสันติเป็นเพียง “สตาร์ทอัพเล็ก ๆ” ที่ไม่น่าจะเป็นภัยคุกคามใหญ่ได้ครับ การประเมินคู่แข่งต่ำไป และการขาดการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจของเขาสูญเสียส่วนแบ่งตลาด และต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดกว่าที่คิดครับ

ตัวอย่างในซีรีส์: เมื่อธันเดอร์ เอ็กซ์เพรสเริ่มสร้างความปั่นป่วนในตลาด เจ้าสัวคณินอาจใช้กลยุทธ์เดิม ๆ ในการรับมือ หรือ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจได้เร็วพอ ซึ่งทำให้เขาตกเป็นฝ่ายตั้งรับ และสูญเสียโอกาสในการควบคุมสถานการณ์ไปครับ

4. ‘การขาดวิสัยทัศน์ในระยะยาว’ หรือ ‘การยึดติดกับผลกำไรระยะสั้น’

การทำธุรกิจที่เน้นแต่ผลกำไรในปัจจุบัน หรือ การไม่กล้าลงทุนในนวัตกรรมที่ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงสูงในตอนแรก อาจทำให้เราพลาดโอกาสในการสร้างมูลค่ามหาศาลในอนาคตครับ เจ้าสัวคณินอาจไม่ได้มองเห็นภาพใหญ่ของธุรกิจขนส่งที่กำลังจะเปลี่ยนไป หรือ ไม่เชื่อมั่นในโมเดลธุรกิจแบบใหม่ของสันติมากพอครับ

ตัวอย่างในซีรีส์: ไอเดียของสันติในการให้บริการขนส่งแบบใหม่ อาจเป็นสิ่งที่ต้องลงทุนสูง และให้ผลตอบแทนช้าในตอนแรก ซึ่งอาจขัดกับแนวคิดของเจ้าสัวคณินที่อาจต้องการผลกำไรที่รวดเร็ว หรือ ลดความเสี่ยง การตัดสินใจเช่นนี้ทำให้เจ้าสัวพลาดโอกาสที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง และสร้างธุรกิจระดับยูนิคอร์นด้วยมือของตัวเองครับ

เรื่องราวของเจ้าสัวคณินในซีรีส์ “Mad Unicorn สงครามส่งด่วน” จึงเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักธุรกิจทุกคนครับว่า การเป็นผู้นำไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ผิดพลาด และการเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ การให้คุณค่ากับคน และการมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล คือกุญแจสำคัญที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้ครับ

คุณล่ะครับ เคยเจอสถานการณ์คล้าย ๆ เจ้าสัวคณินบ้างไหมครับ? มาร่วมแชร์ความคิดเห็นกันได้เลยครับ!

แต่ถ้าหากอยากฟีเจอร์ระบบหลังบ้านกว่า 100 ฟีเจอร์ ที่สามารถช่วยในการขายของออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีบริการขนส่งในราคาพิเศษ ถูกกว่าไปส่งเองที่หน้าร้าน และยังสามารถเรียกรถเข้ารับฟรีได้ถึงหน้าบ้าน ต้องมาใช้งานระบบ iShip แถมระบบยังใช้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน! สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line: @iShip หรือ เพจ Facebook IShip ระบบจัดการรวมขนส่งออนไลน์ ได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น. ครับผม

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก: ซีรีส์ “สงครามส่งด่วน: Mad Unicorn” ​

SHARE