ถอดรหัส ‘การเจรจาต่อรอง’ สไตล์ สันติ เคล็ดลับปิดดีลสำคัญที่ไม่มีสอนในตำราธุรกิจ

ในโลกของธุรกิจที่ทุกก้าวคือ การต่อรอง ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ หรือ ข้อเสนอที่สวยหรูเท่านั้นที่จะตัดสินแพ้ชนะครับ บางครั้ง “ศิลปะแห่งการเจรจาต่อรอง” นี่แหละที่เป็นตัวแปรสำคัญที่พลิกเกมได้ทุกสถานการณ์ เหมือนที่เราได้เห็นจาก สันติ แซ่ลี ในซีรีส์ “Mad Unicorn สงครามส่งด่วน”

สันติอาจไม่ได้เรียนจบ MBA หรือ มีแบ็กกราวด์หรูหรา แต่เขามี “พรสวรรค์” ในการเจรจาต่อรองที่น่าทึ่ง และสามารถปิดดีลสำคัญๆ ได้สำเร็จ แม้จะอยู่ในสถานะที่ดูเสียเปรียบ มาดูกันครับว่าเขามีเคล็ดลับอะไรที่ “ไม่มีสอนในตำราธุรกิจ” บ้างครับ

1. เข้าใจ ‘ความต้องการที่แท้จริง’ ของคู่กรณี

เคล็ดลับสำคัญของการเจรจาต่อรองสไตล์สันติคือ เขาไม่ได้มองแค่สิ่งที่คู่กรณีพูดออกมาตรง ๆ ครับ แต่เขาพยายามเจาะลึกไปถึง “ความต้องการ หรือ ปัญหาที่แท้จริง” ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง การเข้าใจสิ่งนี้ทำให้เขาสามารถเสนอทางออกที่ตรงใจ และเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายได้ครับ

ตัวอย่างในซีรีส์: ตอนที่สันติพยายามชักชวน เสี่ยวหยู (รับบทโดย เจนเย่ เมธิกา) มาร่วมทีมแรก ๆ เสี่ยวหยูดูเหมือนจะไม่สนใจ และเน้นแต่เรื่องตัวเลข แต่สันติไม่ได้ถอดใจ เขามองเห็นว่าเสี่ยวหยูอาจจะต้องการมากกว่าแค่เงิน อาจจะเป็นโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเอง หรือ การทำงานที่ท้าทายกว่าเดิม การที่สันติเข้าใจจุดนี้ ทำให้เขาสามารถนำเสนอวิสัยทัศน์ที่ตรงใจเสี่ยวหยู และชวนเธอเข้ามาร่วมสร้าง Thunder Express ได้ในที่สุดครับ

2. ใช้ ‘เรื่องเล่า’ และ ‘ความจริงใจ’ มัดใจคู่กรณี

สันติไม่ได้มีแค่ข้อมูล หรือ ตัวเลขที่น่าสนใจครับ แต่เขามักจะใช้ “เรื่องเล่าส่วนตัว” หรือ “ความจริงใจ” ในการสื่อสาร ซึ่งสามารถสร้างความผูกพันทางอารมณ์ และทำให้คู่กรณีรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเขามากกว่าแค่ข้อเสนอทางธุรกิจครับ

ตัวอย่างในซีรีส์: หลายครั้งที่สันติเล่าเรื่องราวชีวิตของเขา ประสบการณ์จากดอยวาวี หรือ ความมุ่งมั่นที่จะพาครอบครัวให้พ้นความยากจนให้กับคนที่เขาต้องการร่วมงานด้วยครับ การเล่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้ดูเป็นทางการ แต่กลับสร้างความน่าเชื่อถือ และเชื่อมโยงอารมณ์กับคู่กรณีได้ดีกว่าการพูดถึงแค่ตัวเลข หรือ ผลประโยชน์เพียงอย่างเดียวครับ

3. ‘ความกล้าบ้าบิ่น’ ที่มาพร้อม ‘ความรู้’ (และบางครั้งก็ ‘ความด้าน’)

สันติมีความกล้าที่จะเจรจาในสถานการณ์ที่คนอื่นอาจจะถอยครับ แต่ความกล้านั้นไม่ได้มาจากการไม่รู้อะไรเลย แต่มาจากความเข้าใจในธุรกิจ และการประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว แม้บางครั้งจะดูเหมือน “ด้าน” ไปบ้าง แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้เขากล้าชน และไม่ยอมแพ้ครับ

ตัวอย่างในซีรีส์: ในฉากการเจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์ หรือ คู่ค้าที่ไม่ยอมลดราคา หรือ ให้เงื่อนไขที่ดีพอ สันติกล้าที่จะยืนกรานในสิ่งที่เขาต้องการครับ บางครั้งก็ยอมเดินออกจากโต๊ะเจรจา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาก็มีไพ่ในมือ ซึ่งความกล้าบ้าบิ่นนี้เองที่ทำให้คู่กรณีต้องกลับมาคิดทบทวน และยอมตกลงในที่สุดครับ

4. ‘การอ่านคน’ และ ‘การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์’ ได้ทันที

สิ่งหนึ่งที่สันติเก่งกาจคือการ “อ่านคน” ครับ เขาสามารถสังเกตภาษากาย น้ำเสียง หรือ คำพูดที่ซ่อนอยู่ เพื่อทำความเข้าใจว่าคู่กรณีคิดอะไรอยู่ และพร้อมที่จะ “ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์” การเจรจาได้ทันทีตามสถานการณ์ครับ

ตัวอย่างในซีรีส์: ในหลาย ๆ ครั้งที่สันติเจรจากับ เจ้าสัวคณิน (รับบทโดย เอก ธเนศ) หรือ เคน (รับบทโดย พีช พชร) เขามักจะสังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่าย และปรับคำพูด หรือ ท่าทีเพื่อให้ได้เปรียบ หรือ หาทางออกที่ดีที่สุดครับ ความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้เขาสามารถพลิกสถานการณ์จากเป็นรองให้กลับมาได้เปรียบอยู่เสมอครับ

5. ‘วิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่’ คือ ข้อเสนอที่เหนือกว่าเงิน

แม้เงินจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเจรจา แต่ สันติ มักจะนำเสนอ “วิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่” ของ Thunder Express เป็นข้อเสนอที่เหนือกว่าเงินเสมอครับ เขาทำให้คู่กรณีเห็นภาพอนาคตที่สดใส และโอกาสที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า ซึ่งดึงดูดใจคนได้มากกว่าแค่ผลตอบแทนทางการเงินในระยะสั้นครับ

ตัวอย่างในซีรีส์: การที่ รุ่ยเจี๋ย (รับบทโดย ดร.พลัง โลกศิลป์) ยอมมาร่วมงานกับสันติ แม้จะมีบุคลิกที่เย็นชา และดูเหมือนจะไม่สนใจสิ่งรอบข้างมากนัก ส่วนหนึ่งก็มาจากวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ของสันติ ที่ทำให้รุ่ยเจี๋ยเห็นว่านี่คือโอกาสที่จะได้สร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ และมีผลกระทบต่อวงการจริง ๆ ครับ

ศิลปะการเจรจาต่อรองสไตล์ สันติ แซ่ลี ในซีรีส์ “Mad Unicorn สงครามส่งด่วน” จึงเป็นบทเรียนที่ไม่ได้มีแค่ในตำราธุรกิจครับ แต่มาจากการเรียนรู้จากประสบการณ์ การอ่านคน และการใช้ความจริงใจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และปิดดีลสำคัญๆ ได้สำเร็จครับ

คุณล่ะครับ มีเคล็ดลับการเจรจาต่อรองแบบไหนที่เคยใช้แล้วประสบความสำเร็จบ้างครับ? มาแลกเปลี่ยนกันได้เลยครับ!

แต่ถ้าหากอยากฟีเจอร์ระบบหลังบ้านกว่า 100 ฟีเจอร์ ที่สามารถช่วยในการขายของออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีบริการขนส่งในราคาพิเศษ ถูกกว่าไปส่งเองที่หน้าร้าน และยังสามารถเรียกรถเข้ารับฟรีได้ถึงหน้าบ้าน ต้องมาใช้งานระบบ iShip แถมระบบยังใช้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน! สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line: @iShip หรือ เพจ Facebook IShip ระบบจัดการรวมขนส่งออนไลน์ ได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น. ครับผม

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก: ซีรีส์ “สงครามส่งด่วน: Mad Unicorn” ​

SHARE