ป้องกันการถูกแฮ็ก และสแปม 5 วิธีตั้งค่าความปลอดภัย Facebook Page และ Ad Account ให้รัดกุม

ทราบไหมครับว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการทำธุรกิจบนโลกดิจิทัลไม่ใช่คู่แข่ง แต่เป็นการถูกแฮ็กเพจ หรือบัญชีโฆษณา! ลองนึกภาพนะครับ เพจที่เราสร้างมาอย่างยากลำบากโดนยึด ทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน หรือแย่กว่านั้น คือ โดนเอาบัญชีโฆษณาไปผลาญเงินค่าโฆษณาจนหมดตัว!

เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง และเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวมากครับ การสูญเสีย Ads Account ไป อาจหมายถึงการหยุดชะงักของยอดขายทั้งหมดเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้ผมจะมาแชร์ 5 วิธี ตั้งค่าความปลอดภัย Facebook Page และ Ads Account ให้รัดกุมที่สุด พร้อมขั้นตอนการตั้งค่าแบบ Step-by-Step เพื่อให้เราสามารถโฟกัสกับการขายของได้อย่างสบายใจครับ

1. เปิดใช้งานระบบยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (2FA) ให้กับทุกคน

นี่คือด่านแรกที่สำคัญที่สุดครับ! Two-Factor Authentication (2FA) หรือ การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น เปรียบเสมือนการล็อกประตูสองชั้น การที่เรามีแค่รหัสผ่านก็เหมือนมีแค่กุญแจดอกเดียว ถ้าแฮ็กเกอร์รู้รหัสของเราเขาก็เข้ามาได้เลยครับ แต่ถ้าเราเปิด 2FA เมื่อมีคนพยายามล็อกอินจากเครื่องที่ไม่รู้จัก ระบบจะขอรหัสที่ส่งเข้ามือถือเราด้วย ทำให้แฮ็กเกอร์ไม่สามารถเข้าถึงบัญชีได้เลยครับ

💡 ขั้นตอนการตั้งค่า 2FA

    1. เข้าสู่แอปฯ Facebook หรือ เว็บไซต์ แล้วคลิกที่รูปโปรไฟล์ (มุมขวาบน)
    2. เลือก การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > ตั้งค่า > ศูนย์บัญชี (Accounts Center)
    3. ในเมนู ศูนย์บัญชี เลือก รหัสผ่านและการรักษาความความปลอดภัย (Password and Security)
    4. เลือก การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (Two-Factor Authentication) แล้วเลือกบัญชี Facebook ที่คุณต้องการตั้งค่า
    5. เลือกวิธีการยืนยันตัวตนที่ต้องการ เช่น ใช้ แอปยืนยันตัวตน (Authenticator App) หรือ ข้อความ SMS (แนะนำให้ใช้แอปฯ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดครับ)
    6. ปฏิบัติตามคำแนะนำจนเสร็จสิ้น อย่าลืมเก็บบันทึก รหัสสำรอง ไว้ในที่ปลอดภัยด้วยนะครับ

2. ใช้ Business Manager และกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงอย่างจำกัด

สำหรับ เจ้าของธุรกิจออนไลน์ ทุกคน ควรเลิกใช้การจัดการผ่านบัญชีส่วนตัว แล้วย้ายทุกอย่างมาไว้ที่ Meta Business Manager ให้หมดครับ! Business Manager คือศูนย์บัญชาการที่ช่วยแยกงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน และที่สำคัญที่สุด คือ เราสามารถ “จำกัดสิทธิ์” การเข้าถึงได้อย่างละเอียด

💡 ขั้นตอนการตั้งค่าสิทธิ์อย่างจำกัด

    1. เข้าสู่ Meta Business Suite ของคุณ แล้วไปที่ การตั้งค่า (Settings)
    2. ในเมนูข้อมูลธุรกิจทางซ้าย เลือก ผู้คน (People)
    3. ตรวจสอบ และกำหนด บทบาท (Roles) ให้เหมาะสมกับหน้าที่ของพนักงานแต่ละคนเท่านั้นครับ
      • Admin/ผู้ดูแลระบบ ควรมีแค่เจ้าของธุรกิจเท่านั้น
      • ผู้ที่ดูแลด้านโฆษณา ควรได้รับสิทธิ์เป็น Advertiser ใน Ad Account เท่านั้น
      • ผู้ที่ดูแลเพจ ควรได้รับสิทธิ์แค่เป็น Moderator หรือ Editor เท่านั้น
    4. ควรจำกัดให้บัญชีส่วนตัวของพนักงาน มีการเข้าถึงในรูปแบบ มาตรฐาน (Standard Access) หรือ จำกัด (Restricted Access) เพื่อให้มีสิทธิ์ทำได้เท่าที่จำเป็นที่สุดครับ

3. ตั้งรหัสผ่านให้แข็งแกร่ง และไม่ซ้ำใคร

ข้อนี้อาจจะดูพื้นฐาน แต่เชื่อไหมครับว่าหลายคนยังใช้รหัสผ่านง่ายๆ อยู่เลยครับ รหัสผ่านที่ดีควรมีอย่างน้อย 12 ตัวอักษร มีทั้งตัวพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ ตัวเลข และสัญลักษณ์ ผสมกันครับ

และที่สำคัญมากๆ คือ ไม่ควรใช้รหัสผ่านซ้ำกันในทุกๆ แพลตฟอร์มนะครับ ถ้าแฮ็กเกอร์ได้รหัสจากเว็บไซต์หนึ่งไป พวกเขาก็จะลองใช้รหัสเดียวกันนั้นกับ Facebook หรือ Ads Account ของเราทันทีครับ

💡 เคล็ดลับการสร้างรหัสผ่าน

    • ใช้ประโยคยาวๆ ที่จำง่าย เช่น “MyBusinessIsAwesome2025!” และเพิ่มสัญลักษณ์เข้าไป
    • ไม่ควรใช้รหัสผ่านซ้ำกัน ในทุกๆ แพลตฟอร์ม การใช้โปรแกรมจัดการรหัสผ่าน (Password Manager) จะช่วยให้เราสร้าง และจัดเก็บรหัสผ่านที่ซับซ้อนได้อย่างปลอดภัยครับ
    • เปลี่ยนรหัสผ่านทุกๆ 3-6 เดือน หรือทันทีที่คุณสงสัยว่าบัญชีอาจมีปัญหาครับ

4. ตรวจสอบ “การแจ้งเตือนด้านความปลอดภัย” และ “อีเมลแจ้งเตือน” เป็นประจำ

Facebook มีฟังก์ชันดีๆ ที่จะคอยแจ้งเตือนเราอยู่เสมอ เมื่อมีการล็อกอินที่น่าสงสัย หรือมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในบัญชีของเราครับ เราในฐานะ เจ้าของธุรกิจออนไลน์ ต้องหมั่นเข้าไปเช็กความปลอดภัย Facebook อยู่เสมอ

💡 ขั้นตอนการตั้งค่าการแจ้งเตือน

    1. เข้าสู่ แอปฯ Facebook หรือ เว็บไซต์ แล้วคลิกที่ รูปโปรไฟล์ (มุมขวาบน)
    2. เลือก การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > ตั้งค่า > ศูนย์บัญชี (Accounts Center)
    3. ในเมนู ศูนย์บัญชี เลือก รหัสผ่านและการรักษาความความปลอดภัย” (Password and Security)
    4. เลือก การแจ้งเตือนการเข้าสู่ระบบ (Login Alerts) > เลือกบัญชีที่ต้องการตั้งค่า
    5. ตรวจสอบว่าได้เปิดรับการแจ้งเตือนผ่าน การแจ้งเตือนในแอพ และอีเมล เพื่อให้เราสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วครับ
    6. ถ้าได้รับการแจ้งเตือนแปลกๆ ให้รีบกด “ไม่ใช่ฉัน” และเปลี่ยนรหัสผ่านทันทีเพื่อป้องกันถูกแฮ็กครับ

5. ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงของแอปฯ และบริการภายนอกที่เชื่อมต่อ

เวลาที่เราใช้งานเครื่องมือช่วยในการโพสต์ หรือแอปฯ วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เรามักจะเผลอกดให้สิทธิ์การเข้าถึง Facebook Page ของเราไปโดยง่ายครับ ปัญหาคือแอปฯ บางตัวอาจเป็นช่องโหว่ หรือแอปฯ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วก็ยังคงมีสิทธิ์ติดอยู่กับเพจของเราครับ

💡 ขั้นตอนการล้างสิทธิ์ที่เกินจำเป็น

    1. ไปที่บัญชี Facebook ส่วนตัวของคุณ
    2. ไปที่ การตั้งค่า และความเป็นส่วนตัว > การตั้งค่า
    3. ไปที่เมนู กิจกรรมของคุณ ทางด้านขวา > แอพ และเว็บไซต์
    4. ตรวจสอบรายชื่อแอปฯ และเว็บไซต์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับบัญชี Facebook ของคุณครับ
    5. ถ้าเจอแอปฯ ที่ไม่ได้ใช้งานมานาน หรือไม่รู้จัก ให้กด ลบออก ทันทีครับ เพราะการล้างสิทธิ์ที่เกินความจำเป็นออกไป จะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกโจมตีจากภายนอกได้เยอะมากครับ

การป้องกันถูกแฮ็ก และความปลอดภัย Facebook Page และ Ads Account ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปครับ ในฐานะเจ้าของธุรกิจออนไลน์ การตั้งค่าความปลอดภัยอย่างรัดกุมทั้ง 5 ข้อนี้ จะช่วยให้เราไม่ต้องมานั่งกังวลกับความเสี่ยงต่างๆ และมีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างยอดขายได้อย่างเต็มที่ครับ อย่ารอให้เกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นก่อนแล้วค่อยแก้ มาเริ่มทำวันนี้เลยนะครับ เพื่อ Ad Account ที่ปลอดภัย และธุรกิจที่มั่นคงของเราทุกคนครับ

แต่ถ้าหากอยากฟีเจอร์ระบบหลังบ้านกว่า 100 ฟีเจอร์ ที่สามารถช่วยในการขายของออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีบริการขนส่งในราคาพิเศษ ถูกกว่าไปส่งเองที่หน้าร้าน และยังสามารถเรียกรถเข้ารับฟรีได้ถึงหน้าบ้าน ต้องมาใช้งานระบบ iShip แถมระบบยังใช้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน! สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line: @iShip หรือเพจ Facebook IShip ระบบจัดการรวมขนส่งออนไลน์ ได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น. ครับผม

SHARE