ทำความรู้จัก ‘Customer Journey’ ก่อนสร้างคอนเทนต์ขายของยังไงให้โดนใจลูกค้า

ในยุคที่คอนเทนต์คือกุญแจสำคัญของการขายของออนไลน์ การที่แม่ค้าออนไลน์อย่างเราจะเขียน หรือ สร้างคอนเทนต์ให้โดนใจลูกค้า ไม่ใช่แค่โพสต์สวย หรือ คำโปรโมตแรงๆ อย่างเดียวครับ แต่เราต้องเข้าใจเส้นทางความคิดของลูกค้า ว่าเขาคิดยังไง ตั้งแต่เริ่มสนใจสินค้า จนตัดสินใจซื้อของเรา

สิ่งนี้เรียกว่า Customer Journey หรือ เส้นทางของลูกค้าครับ 

วันนี้เรามาทำความรู้จัก Customer Journey ให้ชัดเจน แล้วเรียนรู้วิธีนำมาใช้สร้างคอนเทนต์ให้แม่น โดนใจ และตรงจุดมากขึ้นครับ

Customer Journey คือ อะไร?

Customer Journey คือ เส้นทางที่ลูกค้าเดินทางผ่านตั้งแต่ยังไม่รู้จักแบรนด์เราเลย จนกลายมาเป็นลูกค้าประจำครับ เส้นทางนี้จะประกอบด้วยหลาย “ช่วงเวลา” ที่ลูกค้ามีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ เช่น

    • ช่วงเริ่มรู้จัก
    • ช่วงเริ่มสนใจ
    • ช่วงเปรียบเทียบ
    • ช่วงตัดสินใจซื้อ
    • ช่วงใช้สินค้า และแนะนำต่อ

การเข้าใจแต่ละช่วง จะช่วยให้เราวางแผนคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้แม่นยำมากขึ้นครับ

1. ช่วงรู้จัก (Awareness)

ลูกค้ายังไม่รู้จักแบรนด์เราเลยครับ บางคนอาจยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีปัญหาที่สินค้าเราช่วยได้

ตัวอย่างคอนเทนต์ที่เหมาะกับช่วงนี้:

    • คลิปสั้นให้ความรู้ เช่น “รู้ไหมว่าการเลือกเสื้อผ้าผิดไซซ์ทำให้ดูตัวหนาขึ้น”
    • โพสต์แชร์เทรนด์ หรือ ปัญหาที่คนเจอในชีวิตประจำวัน
    • Meme ตลก หรือ กระแสไวรัล ที่แทรกแบรนด์เบาๆ

เป้าหมาย: ดึงดูดความสนใจ ให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์เราครับ

2. ช่วงพิจารณา (Consideration)

ลูกค้าเริ่มรู้จักเราแล้วครับ และเริ่มคิดว่าสินค้าเราน่าสนใจ แต่เขายังลังเล หรือ ยังเปรียบเทียบกับเจ้าอื่นอยู่

ตัวอย่างคอนเทนต์ที่เหมาะกับช่วงนี้:

    • รีวิวจากลูกค้าจริง
    • เปรียบเทียบข้อดีของสินค้ากับคู่แข่ง
    • Live สาธิตการใช้สินค้า
    • Q&A คำถามที่พบบ่อย

เป้าหมาย: เสริมความมั่นใจ และแสดงให้เห็นว่าสินค้าเราตอบโจทย์ที่สุดครับ

3. ช่วงตัดสินใจซื้อ (Decision)

ถึงจุดที่ลูกค้าพร้อมซื้อแล้วครับ แค่รอ “แรงกระตุ้น” สุดท้ายเท่านั้น

ตัวอย่างคอนเทนต์ที่เหมาะกับช่วงนี้:

    • โปรโมชั่นพิเศษ เช่น ส่งฟรี หรือ ลดราคาช่วงเวลาจำกัด
    • คำโปรยสั้นๆ ที่กระตุ้นอารมณ์ เช่น “ของใกล้หมดแล้ว” หรือ “สินค้าขายดีอันดับ 1”
    • การันตีคุณภาพ เช่น รับเปลี่ยน/คืนใน 7 วัน

เป้าหมาย: ปิดการขายให้สำเร็จครับ

4. ช่วงหลังการซื้อ (Retention)

หลังจากลูกค้าซื้อแล้ว อย่าปล่อยให้เขาหายไปครับ เพราะลูกค้าเก่า คือ คนที่มีแนวโน้มกลับมาซื้อมากที่สุด

ตัวอย่างคอนเทนต์ที่เหมาะกับช่วงนี้:

    • ขอบคุณลูกค้าผ่านแชท หรือ โพสต์
    • ส่งเคล็ดลับการใช้สินค้าเพิ่มเติม
    • เสนอสินค้าเสริม หรือ โปรโมชั่นเฉพาะลูกค้าเก่า
    • ขอรีวิว หรือ จัดกิจกรรมชิงรางวัล

เป้าหมาย: รักษาความสัมพันธ์ และสร้างลูกค้าประจำครับ

การเข้าใจ Customer Journey คือพื้นฐานสำคัญที่แม่ค้าออนไลน์ควรรู้ครับ เพราะจะช่วยให้เราทำคอนเทนต์ตรงใจลูกค้าในแต่ละช่วง ไม่ต้องเดา ไม่ต้องหว่านยิงไปทั่ว แต่สื่อสารแบบตรงจุด ตรงใจ และทำให้ลูกค้า “รู้สึกว่าเราเข้าใจเขา” จริงๆ

ลองสำรวจดูนะครับ ว่าตอนนี้คอนเทนต์ของเรากำลังตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงไหน แล้วเสริมให้ครบทุกช่วง รับรองว่ายอดขายจะมีทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอนครับ 😊

แต่ถ้าหากอยากฟีเจอร์ระบบหลังบ้านกว่า 100 ฟีเจอร์ ที่สามารถช่วยในการขายของออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีบริการขนส่งในราคาพิเศษ ถูกกว่าไปส่งเองที่หน้าร้าน และยังสามารถเรียกรถเข้ารับฟรีได้ถึงหน้าบ้าน ต้องมาใช้งานระบบ iShip แถมระบบยังใช้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน! สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line: @iShip หรือ เพจ Facebook IShip ระบบจัดการรวมขนส่งออนไลน์ ได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น. ครับผม

SHARE

ซื้อหวยออนไลน์