How to ทำ Pre-order ยังไงให้ไม่พลาด ทั้งเรื่องเวลา การชำระเงิน และความน่าเชื่อถือของร้าน!!

Pre-order กลายเป็นหนึ่งในวิธีการขายที่แม่ค้าออนไลน์หลายคนเลือกใช้ เพราะไม่ต้องสต็อกสินค้าเยอะ ลดความเสี่ยงเรื่องทุนจม และยังสามารถทดสอบตลาดก่อนตัดสินใจนำเข้าสินค้าแบบจริงจังได้อีกด้วยครับ

แต่การขายแบบ Pre-order ก็มีข้อควรระวังหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของ การจัดการเวลา การเก็บเงินให้รัดกุม และการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า
วันนี้เราจะมาแชร์ How to ง่ายๆ ที่จะช่วยให้แม่ค้าออนไลน์ทุกคนทำ Pre-order ได้อย่างมืออาชีพครับ

1. วางแผนเรื่อง “เวลา” ให้ชัดตั้งแต่ต้น

เวลา คือ ปัจจัยสำคัญที่สุดของการขายแบบ Pre-order เพราะลูกค้าจะต้องรอสินค้าเป็นระยะเวลาหนึ่ง หากไม่กำหนดระยะเวลาให้ชัดเจนตั้งแต่แรก อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ หรือ เข้าใจผิดได้ครับ

เคล็ดลับในการจัดการเวลา:

    • แจ้ง “วันปิดรอบ” อย่างชัดเจน เช่น ปิดรอบทุกวันศุกร์ เวลา 22.00 น.
    • แจ้ง “ระยะเวลารอสินค้า” อย่างละเอียด เช่น สินค้าจะใช้เวลานำเข้า 10–15 วันทำการ
    • เผื่อเวลาเพิ่มอีกเล็กน้อย เผื่อกรณีมีเหตุขัดข้อง เช่น สินค้าติดศุลกากร หรือ ขนส่งล่าช้า

ลูกค้าจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่าเรามีแผนงานที่ชัดเจนครับ

2. วางระบบ “การชำระเงิน” ให้ชัดเจน ลดปัญหาวุ่นวาย

การเก็บเงินในระบบ Pre-order มักจะต้องชำระเงินก่อนลูกค้าจะได้รับสินค้า ดังนั้น ความชัดเจนในขั้นตอนการโอนเงิน และการยืนยันยอดจึงเป็นเรื่องสำคัญมากครับ

สิ่งที่แม่ค้าควรทำ:

    • สร้างฟอร์ม หรือ ระบบแจ้งชำระเงินให้ลูกค้าใช้งานได้ง่าย
    • แจ้งเลขบัญชีอย่างชัดเจน พร้อมแนบ QR Code หากมี
    • ขอหลักฐานการโอน เช่น สลิป หรือ ภาพหน้าจอ และให้เก็บข้อมูลไว้ตรวจสอบ
    • ส่งข้อความยืนยันกับลูกค้าเมื่อได้รับยอดแล้ว เช่น “ได้รับยอดเรียบร้อยแล้วค่ะ ขออนุญาตจัดเตรียมออเดอร์นะคะ”

ยิ่งเราดูเป็นมืออาชีพเรื่องการเก็บเงิน ลูกค้าก็จะยิ่งเชื่อมั่นในร้านของเรามากขึ้นครับ

3. สื่อสารอย่างโปร่งใส เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ร้าน

ลูกค้าจะตัดสินใจสั่ง Pre-order ได้ง่ายขึ้น ถ้าพวกเขารู้สึกว่า “ร้านนี้ไว้ใจได้” ความน่าเชื่อถือจึงเป็นอีกหัวใจสำคัญครับ

แนวทางในการสร้างความน่าเชื่อถือ:

    • ใช้ภาพสินค้า หรือ วิดีโอจริงจากแหล่งนำเข้า
    • รีวิวจากลูกค้าเก่า คือ กุญแจทอง ควรเก็บไว้โชว์ทั้งในแชท และหน้าเพจ
    • มีการอัปเดตสถานะสินค้าตลอด เช่น สินค้ากำลังจัดส่งจากต่างประเทศ, สินค้าถึงไทยแล้ว, กำลังแพ็คของ
    • หากมีปัญหา ควรรีบแจ้งลูกค้าก่อนที่เขาจะมาทวงถามครับ

การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา และใส่ใจลูกค้า จะทำให้ร้านของเราน่าเชื่อถือขึ้นมากเลยครับ

4. สรุปทุกออเดอร์อย่างละเอียด ก่อนส่งจริง

เมื่อถึงเวลาส่งสินค้า อย่าลืมตรวจสอบออเดอร์ทุกชิ้นให้ละเอียดก่อนแพ็คครับ เพราะการพลาดแม้แต่ชิ้นเดียวอาจทำให้เกิดความเสียหายกับภาพลักษณ์ของร้านได้

สิ่งที่ควรทำก่อนจัดส่ง:

    • ตรวจสอบชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรลูกค้าอีกครั้ง
    • ตรวจเช็คจำนวนสินค้าให้ครบตามออเดอร์
    • หากสินค้าขาด หรือ ผิดแบบ ต้องรีบแจ้ง และเสนอทางออกให้ลูกค้าทันที

การส่งของตรงเวลา และครบถ้วน คือ จุดสำคัญที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำอีกครับ

5. สร้างระบบเก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อใช้ในอนาคต

ลูกค้า Pre-order มักจะเป็นลูกค้าที่สนใจสินค้านำเข้าเฉพาะทาง หากเราสามารถเก็บข้อมูล และบริหารความสัมพันธ์กับพวกเขาได้ดี จะสามารถทำ Pre-order รอบใหม่ได้ง่ายขึ้นครับ

ตัวอย่างการเก็บข้อมูล:

    • บันทึกชื่อ-เบอร์ลูกค้าเก่า เพื่อส่งแจ้งเตือนรอบใหม่
    • ทำกลุ่ม LINE หรือ Facebook เพื่อรวมกลุ่มลูกค้าสนใจสินค้าแบบเดียวกัน
    • ให้ส่วนลด หรือ โปรพิเศษกับลูกค้าเดิม เพื่อกระตุ้นให้เขากลับมาซื้อซ้ำ

การดูแลลูกค้าเก่าให้ดี จะช่วยให้ธุรกิจ Pre-order ของคุณเติบโตแบบยั่งยืนครับ

Pre-order ไม่ใช่เรื่องยากครับ ขอแค่เรามีการวางแผนที่ดี และมีระบบจัดการที่ชัดเจน ทั้งในเรื่อง เวลา การชำระเงิน และการสร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับร้าน การขายแบบนี้เหมาะมากกับแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการลดต้นทุนในการสต็อกสินค้า ไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่ และยังสามารถทดสอบความต้องการของตลาดได้อย่างปลอดภัยอีกด้วยครับ

แต่ถ้าหากอยากฟีเจอร์ระบบหลังบ้านกว่า 100 ฟีเจอร์ ที่สามารถช่วยในการขายของออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีบริการขนส่งในราคาพิเศษ ถูกกว่าไปส่งเองที่หน้าร้าน และยังสามารถเรียกรถเข้ารับฟรีได้ถึงหน้าบ้าน ต้องมาใช้งานระบบ iShip แถมระบบยังใช้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน! สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line: @iShip หรือ เพจ Facebook IShip ระบบจัดการรวมขนส่งออนไลน์ ได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น. ครับผม

SHARE

ซื้อหวยออนไลน์