ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่องทาง Shopee เป็นช่องทางการขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้อย่างมากมาย ทั้งสามารถเทียบราคาสินค้าได้หลากหลาย หาสินค้าที่ต้องการได้อย่างครบครัน แถมยังมาพร้อมกับระบบชำระเงินที่ทันสมัย และระบบติดตามการจัดส่งที่แม่นยำอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังเปิดร้านขายของอยู่บน Shopee หรือมีแพลนจะเปิดในเร็ว ๆ นี้ ขอชวนมาดูเคล็ดลับเปิดร้านใน Shopee ให้ขายดีรับปี 2023 ได้ในบทความนี้เลย
3 ข้อดีของการเปิดร้านใน Shopee
- เข้าถึงลูกค้าได้หลากหลาย
การขายของบนแพลตฟอร์ม E-Commerce นั้นถือเป็นทางเลือกใหม่ในยุคดิจิทัลสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ฝันอยากจะประสบความสำเร็จในการขายของออนไลน์ เพราะในปัจจุบันนี้การเปิดร้านบน Social Media เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ทั้งต้องสู้กับร้านค้าใหญ่ที่เปิดมานาน ต้องแข่งขันกับร้านอื่น ๆ ที่ขายสินค้าประเภทเดียวกัน แถมยังต้องปวดหัวไปกับการซื้อโฆษณาเพื่อเพิ่มการมองเห็น ในขณะที่การเปิดร้านใน Shopee ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม E-Commerce ยักษ์ใหญ่ระดับโลกนั้น เป็นโอกาสที่จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าเข้าถึงลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก และเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้นเป็นเท่าตัว
- พ่อค้าแม่ค้าสะดวกสบาย
จบทุกความวุ่นวายของการขายของออนไลน์ด้วยระบบอันทันสมัย ที่ให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถอัปเดตสินค้าได้ง่าย ๆ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถทำรายการด้วยตัวเองได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้า ชำระเงิน และติดตามการจัดส่ง ช่วยประหยัดเวลาในการขายได้มากกว่าที่เคย
- ขายได้ทุกที่ทุกเวลา มีมือถือเครื่องเดียวก็ขายได้
อีกหนึ่งข้อดีที่ทำให้การเปิดร้านใน Shopee เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้ายุคดิจิทัลเป็นอย่างมาก ก็คือการที่สามารถขายของออนไลน์ได้จากทุกที่ ทุกเวลา แค่มีอินเทอร์เน็ตและมีโทรศัพท์มือถือ ก็สามารถจัดการร้านค้าและทำกำไรได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว เปิดโอกาสให้ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้
เปิดคัมภีร์! 6 วิธีขายของใน Shopee ให้ปัง
1. ตั้งชื่อสินค้าด้วย Keyword ที่ตรงใจ
เคล็ดลับข้อแรกที่สำคัญที่สุดในการเปิดร้านบน Shopee ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเข้ามาเจอกับร้านของคุณได้ นั่นก็คือการตั้งชื่อสินค้าด้วย Keyword ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยมีหลักในการตั้งชื่อดังต่อไปนี้
- หากเป็นสินค้าที่มีแบรนด์ ให้ตั้งชื่อแบรนด์นำหน้าเสมอ
- หากเป็นสินค้าที่ไม่มีแบรนด์ ให้นำหน้าด้วยประเภทของสินค้า เช่น ชุดเดรส, ถุงมือ, กระทะ
- ควรระบุเพศและวัยให้ชัดเจน เช่น เสื้อสำหรับเด็กผู้ชาย กางเกงสำหรับเด็กเล็ก
- ระบุวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา เช่น รองเท้าทำงานผู้หญิง
- พยายามตั้งชื่อสินค้าไม่เกิน 60 ตัวอักษร เพื่อให้แสดงผลบนโทรศัพท์มือถือได้ครบถ้วน
2. ใส่ใจกับการถ่ายรูปสินค้า
นอกจากชื่อสินค้าแล้ว รูปภาพสินค้าก็ถือเป็นหัวใจสำคัญของการขายของออนไลน์เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเปิดร้านใน Shopee หรือเปิดร้านใน Social Media ก็ตาม เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อได้มากที่สุด ซึ่งในการถ่ายรูปสินค้านั้น มีกฎสำคัญอยู่ 2 ข้อก็คือ คุณภาพของกล้อง และแสงธรรมชาติ หากเป็นไปได้ควรถ่ายรูปสินค้าด้วยกล้องที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้ได้รูปที่มีความคมชัด และเลือกถ่ายในแสงธรรมชาติช่วงกลางวัน เพื่อให้ได้ภาพที่ดูสวยและมีสีสันชัดเจน เป็นธรรมชาติมากที่สุด
3. ใส่รายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วน
หนึ่งในอุปสรรคของการซื้อของออนไลน์ก็คือ ลูกค้าไม่สามารถสัมผัสหรือทดลองใช้ได้เหมือนกับการไปซื้อที่หน้าร้าน ดังนั้น สิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าสามารถช่วยได้ก็คือ การใส่รายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วนที่สุด นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าแล้ว ยังทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เช่น หากเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้า ควรระบุไซซ์ให้ชัดเจน หรือหากเป็นสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ควรระบุวิธีการใช้และข้อควรระวังไว้ให้เด่นชัด รับรองว่านอกจากลูกค้าจะประทับใจแล้ว ยังทำให้ร้านของคุณดูเป็นมืออาชีพอีกด้วย
4. จัดโปรโมชันดึงดูดลูกค้า
อีกหนึ่งปัญหาที่มักจะทำให้พ่อค้าแม่ค้าหลายคนท้อใจอยู่บ่อย ๆ ก็คือการที่มีหลายร้านขายสินค้าประเภทเดียวกันมากเกินไป จนไม่รู้ว่าจะต้องเรียกลูกค้าอย่างไรให้แวะมาอุดหนุนที่ร้านเรา บอกเลยว่าสิ่งที่จะช่วยได้ก็คือ การจัดโปรโมชันสินค้านั่นเอง ซึ่งการเปิดร้านใน Shopee นั้นก็มีข้อดีตรงที่ว่า ทางแพลตฟอร์มมีระบบ Flash Sale และระบบโค้ดส่วนลดเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดโปรโมชันอยู่แล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของผู้ขายที่ต้องหมั่นจัดโปรโมชันสินค้าให้สม่ำเสมอทุกเทศกาล และมีโค้ดส่วนลดมาดึงดูดลูกค้าบ่อย ๆ เท่านี้ก็จะช่วยให้ร้านของคุณโดดเด่นและทำกำไรได้ทะลุเป้า
5. Active ร้านอยู่เสมอ
ถึงแม้ว่าข้อดีของการเปิดร้านใน Shopee คือการที่ลูกค้าสามารถทำรายการสั่งซื้อด้วยตัวเองได้ แต่ก็ใช่ว่าพ่อค้าแม่ค้าจะไม่จำเป็นต้องคอยเข้ามา Active ร้านอีกต่อไป เพราะบางครั้งลูกค้าอาจเกิดคำถามเกี่ยวกับสินค้า หรือต้องการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติม หากเราคอย Standby เพื่อตอบลูกค้าอย่างรวดเร็วทันใจ ก็จะช่วยปิดการขายได้ไม่ยาก
6. หมั่นอัปเดตสินค้าให้ดูน่าสนใจ
ปิดท้ายด้วยวิธีขายของใน Shopee ที่จะช่วยให้ร้านของคุณแตกต่างและดูน่าสนใจกว่าร้านอื่น ๆ นั่นก็คือการหมั่นอัปเดตสินค้าให้ดูน่าสนใจอยู่เสมอ เช่น เลือกหยิบสินค้าใหม่ ๆ มาขายตามเทศกาล หรือคอยอัปเดตรูปภาพใหม่ ๆ ให้ลูกค้าได้เห็น เชื่อเลยว่าด้วยวิธีนี้ ร้านของคุณจะดูโดดเด่นกว่าร้านอื่น ๆ อีกมากมายที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันอย่างแน่นอน
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าคนไหนที่กำลังเริ่มต้นเปิดร้านขายของใน Shopee และกำลังมองหาผู้ช่วยดี ๆ ที่ให้คุณจัดส่งสินค้าได้อย่างมืออาชีพ ขอแนะนำ iShip บริษัทรับส่งของออนไลน์ที่รวบรวมขนส่งชั้นนำไว้อย่างครบครัน ให้บริการจัดส่งพัสดุอย่างรวดเร็ว ว่องไว แถมราคาประหยัด ช่วยให้ร้านของคุณเติบโตได้อย่างว่องไว และทำกำไรได้อย่างก้าวกระโดดในทุกแพลตฟอร์ม!
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE OFFICIAL : @iship หรือเบอร์โทร 094-413-4565