iShip x DHL eCommerce คู่หูที่ใช่สำหรับธุรกิจ SME ส่งด่วนทั่วไทย จัดการง่ายในคลิกเดียว

ในโลกอีคอมเมิร์ซที่การแข่งขันสูงลิ่ว การส่งมอบสินค้าอย่างรวดเร็ว และราบรื่น คือ หัวใจสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ นักขายออนไลน์อย่างเราๆ ต่างก็รู้ดีว่าการหาผู้ให้บริการขนส่งที่ไว้ใจได้ และระบบจัดการหลังบ้านที่ใช้งานง่ายนั้นสำคัญแค่ไหน วันนี้เราจึงขอแนะนำสุดยอดคู่หูที่จะเข้ามาช่วยยกระดับการจัดการออเดอร์ของคุณให้โปรขึ้นกว่าเดิม นั่นคือ ระบบ iShip ที่เชื่อมต่อกับบริการขนส่งคุณภาพจาก DHL eCommerce นั่นเองครับ

การรวมตัวกันของ iShip และ DHL eCommerce จะช่วยให้ธุรกิจ SME ของคุณสามารถส่งของด่วนทั่วไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมระบบจัดการที่ช่วยลดเวลาทำงานซ้ำซ้อนให้เหลือเพียงแค่ “คลิกเดียว” เท่านั้นเองครับ บทความนี้จะเจาะลึกว่าทำไมคู่หูคู่นี้ถึงเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ และจะนำไปใช้งานได้อย่างไรบ้างครับ

5 ข้อดีของการส่งพัสดุกับ DHL eCommerce ผ่านระบบ iShip

1. ระบบหลังบ้านฟรี ใช้งานง่าย จัดการครบในที่เดียว

ระบบ iShip ถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานอย่างแท้จริงครับ เมื่อคุณต้องการส่งของกับ DHL eCommerce คุณไม่จำเป็นต้องเข้าหลายเว็บไซต์เพื่อจัดการขั้นตอนต่าง ๆ เพราะ iShip ได้รวบรวมฟังก์ชันสำคัญไว้หมดแล้ว ทั้งการสร้างออเดอร์ การพิมพ์ใบปะหน้าพัสดุ (Shipping Label) การติดตามสถานะพัสดุ ไปจนถึงการจัดการข้อมูลลูกค้า ทุกอย่างทำได้บนหน้าจอเดียว ทำให้การส่งสินค้ากับ DHL eCommerce กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับมือใหม่ และมืออาชีพครับ

2. เรียกรถเข้ารับถึงที่ ไม่มีขั้นต่ำ

ความยุ่งยากของการต้องเสียเวลาเดินทางไปส่งพัสดุที่สาขาจะหมดไปครับ ด้วยระบบของ iShip คุณสามารถกดเรียกรถขนส่ง DHL eCommerce ให้มารับพัสดุถึงหน้าบ้าน หรือที่ทำงานของคุณได้เลยครับ จุดนี้ช่วยประหยัดเวลา และพลังงานที่คุณสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาสินค้า หรือการทำการตลาดแทนได้เต็มที่ แถมยังไม่มีกำหนดจำนวนพัสดุขั้นต่ำอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับธุรกิจ SME ที่มีปริมาณการส่งต่อวันไม่แน่นอนครับ

3. ติดตามสถานะพัสดุแบบ Real-Time สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า

ความรวดเร็วของ DHL eCommerce มาพร้อมกับระบบติดตามสถานะ (Tracking) ที่ยอดเยี่ยมครับ และคุณสามารถตรวจสอบสถานะทั้งหมดผ่านระบบ iShip ได้ทันที ข้อมูลการจัดส่งจะถูกอัปเดตแบบเรียลไทม์ ทำให้คุณสามารถส่งลิงก์ติดตามสถานะให้ลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจ และลดคำถามจากลูกค้าเกี่ยวกับพัสดุที่ยังมาไม่ถึงได้มากเลยครับ

4. มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ที่ปลอดภัย และรวดเร็ว

สำหรับร้านค้าที่ต้องการเพิ่มทางเลือกในการชำระเงิน iShip ก็มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) เมื่อเลือกขนส่งด้วย DHL eCommerce ครับ จุดเด่นคือระบบจะจัดการการโอนเงินคืนเข้าสู่บัญชีของคุณอย่างรวดเร็ว ทำให้สภาพคล่องทางการเงินของธุรกิจไม่ติดขัด เป็นอีกหนึ่งบริการที่ช่วยให้คุณปิดการขายได้ง่ายขึ้น และตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความสะดวก และความปลอดภัยในการซื้อสินค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดีครับ

อัตราค่าบริการขนส่ง DHL eCommece บนระบบ iShip

เรื่องราคาค่าขนส่งเป็นจุดเด่นของการใช้บริการขนส่ง DHL eCommerce ผ่าน iShip เพราะเราได้ให้ราคาพิเศษที่ช่วยลูกค้าของเราลดต้นทุนได้อย่างชัดเจน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 21 บาท (สำหรับพัสดุน้ำหนักเริ่มต้นตามเงื่อนไข) ซึ่งเป็นราคาที่ประหยัดกว่าการเดินไปส่งที่เคาน์เตอร์ปกติครับ

ทั้งนี้อัตราค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบตารางค่าส่งล่าสุดในเมนู ตารางราคาภายในระบบ iShip ได้เลยครับ 

วิธีใช้บริการรถเข้ารับขนส่ง DHL eCommerce ผ่านระบบ iShip

สำหรับการใช้บริการเรียกรถเข้ารับฟรีของ DHL eCommerce เพียงแค่สร้างรายการส่งพัสดุ และเลือกขนส่ง DHL eCommerce ผ่านระบบ iShip ให้เรียบร้อย ระบบจะทำการเรียกรถเข้ารับให้โดยอัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้บริการไม่ต้องทำการเรียกรถเข้ารับด้วยตนเองอีกครั้ง

โดยแนะนำให้ทำการสร้างรายการให้เสร็จสิ้น ก่อนเวลา 09.00 น. สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด และ ก่อนเวลา 11.00 น. สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี เพื่อให้รถสามารถเข้ารับภายในวันนั้นๆ ได้ทันเวลาครับ

และอย่าลืม ทำการแพ็ก และพิมพ์ใบปะหน้าติดบนกล่องพัสดุให้เรียบร้อย พร้อมตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าของคุณถูกแพ็กอย่างแข็งแรง และพร้อมสำหรับการจัดส่งแล้วครับ

เงื่อนไขการจัดส่ง และการเข้ารับพัสดุ

    • ระยะเวลาในการจัดส่ง 3-5 วันทำการไม่รวมวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
    • รองรับพัสดุน้ำหนักไม่เกิน 35 กก.
    • ขนาดกล่องรวม (กว้าง+ยาว+สูง) ต้องไม่เกิน 250 ซม. โดยด้านใดด้านหนึ่งขนาดไม่เกิน 170 ซม.
    • ค่าขนส่งจะคิดตามน้ำหนัก และขนาดของพัสดุ (ก+ย+ส) โดยยึดค่าที่มากกว่าในการคิดราคาค่าขนส่ง หากน้ำหนักเกิน 35 กก. หรือ ขนาดเกิน 250 ซม. จะถูกคิดค่าบริการเพิ่มจากค่าขนส่ง 350 บาททันที
    • มีค่าบริการตีกลับ โดยคิดเท่าราคาค่าขนส่ง
    • เก็บเงินปลายทาง (COD) ค่าธรรมเนียม 3% (ไม่รวม VAT 7%)
    • จำกัดวงเงิน COD ไม่เกิน 50,000 บาท
    • ไม่สามารถนำไปส่งที่สาขาได้ ต้องจองรถในระบบ iShip เท่านั้น
    • สินค้าต้องห้าม หรือสินค้าที่รับส่งแต่ไม่รับเคลมทุกกรณี คลิกเพื่อตรวจสอบประเภทสินค้าต้องห้าม

พื้นที่ให้บริการ และค่าบริการเพิ่มเติม

    • คิดค่าบริการพื้นที่ห่างไกล 50 บาท
    • ฟรี! ค่าบริการพื้นที่ท่องเที่ยว

หมายเหตุ กรณีต้นทาง-ปลายทางอยู่ในกลุ่มพื้นที่เดียวกันไม่คิดค่าบริการเพิ่ม

การรับประกันสินค้า และวิธีการยื่นเคลม

    • หากพัสดุเสียหาย หรือสูญหายทางลูกค้าต้องยื่นเคลมภายใน 7-14 วันหลังเซ็นรับ (นับ 1 วันที่เซ็นรับ)
    • ขนส่งจะรับผิดชอบความเสียหายเบื้องต้น สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ต่อพัสดุ หรือใบลาเบล
    • หากสินค้ามีมูลค่า เกิน 2,000 บาท แนะนำให้ซื้อประกันสินค้าเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มวงเงินคุ้มครองสินค้า ค่าธรรมเนียมประกัน 2% ของมูลค่าสินค้า (ราคายังไม่รวม VAT 7%)
    • การชดเชยจะขึ้นอยู่กับ มูลค่าสินค้าจริง พร้อมหลักฐานประกอบ เช่น (ใบกำกับสินค้า)
    • หากร้านค้าซื้อประกันสินค้าเพิ่มเติม ขนส่งจะชดเชยเกิน 2,000 บาทได้ ตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทขนส่ง
    • ในการยื่นข้อร้องเรียนนั้น ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนด และเงื่อนไขการรับประกันของ ดีเอชแอล โดยพัสดุ และสินค้าที่จัดส่งต้องไม่อยู่ในหมวดหมู่พัสดุต้องห้าม พัสดุที่ไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายได้ หรือมีบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม
    • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาชดเชย หากพัสดุไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของบริษัทขนส่ง
    • ไม่สามารถยื่นเคลมผ่านบริษัทขนส่งโดยตรงได้ หากลูกค้าต้องการดำเนินการเคลมสินค้า กรุณาติดต่อผ่านแอดมิน iShip เท่านั้น

หมายเหตุ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาชดเชย หากพัสดุไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของบริษัทขนส่ง

ระบบ iShip และขนส่ง DHL eCommerce เป็นการจับคู่ที่ลงตัวมากสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องการความรวดเร็ว ความน่าเชื่อถือ และระบบจัดการที่ทันสมัยครับ ไม่ว่าคุณจะส่งพัสดุในประเทศ หรือวางแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในอนาคต การมีคู่หูที่แข็งแกร่งอย่าง DHL eCommerce จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง และแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอนครับ

สนใจใช้บริการ หรือมีคำถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามทีมงาน iShip ได้ที่ Line: @iShip หรือเพจ Facebook IShip ระบบจัดการรวมขนส่งออนไลน์ ได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น. ครับ

SHARE