อัปเดต Trends การยิง Ads Facebook ในครึ่งหลังของปี 2024 ที่นักขายออนไลน์สายยิงแอดไม่ควรพลาด!!

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจออนไลน์ทวีความรุนแรงมากขึ้นในทุกๆ วัน การติดตามเทรนด์ล่าสุดและปรับกลยุทธ์การโฆษณาให้สอดคล้องอยู่เสมอถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์เลยก็ว่าได้ครับ สำหรับนักขายออนไลน์สายยิงแอด Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มอันทรงพลังที่มอบโอกาสมากมายในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายและขับเคลื่อนยอดขายได้เป็นอย่างดี แม้ว่าปัจจุบันจะมีแพลตฟอร์มที่เข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้นก็ตาม 

ดังนั้น บทความนี้จึงได้สรุป 4 Trends การยิง Ads Facebook ในครึ่งหลังของปี 2024 ที่นักขายออนไลน์สายยิงแอดห้ามพลาด โดยนำข้อมูลจาก Mega Digital เอเจนซี่ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งชั้นนำมาวิเคราะห์และอัปเดตให้คุณได้ทราบก่อนใคร

1. วิดีโอแบบสั้นจะมีอิทธิพลมากยิ่งขึ้น

วิดีโอสั้นๆ ยาวไม่เกิน 60 วินาที กำลังกลายเป็นกระแสสำคัญในการโฆษณาบน Facebook เพราะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยผู้บริโภคกว่า 73% นิยมชมวิดีโอแบบสั้นเพื่อค้นหาสินค้าหรือบริการ วิดีโอเหล่านี้มีการดูเฉลี่ยมากถึง 60% และสามารถดึงดูดความสนใจได้ดี การใช้วิดีโอแบบสั้นในโฆษณาช่วยให้ข้อความที่ต้องการสื่อสารถูกจดจำได้ถึง 95% Facebook เองก็ให้ความสำคัญกับวิดีโอแบบสั้นมากขึ้นเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ ฟีเจอร์ Reels ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับฟีเจอร์อื่นๆ ของ Facebook

Tips:

        • ลองใช้ Facebook Reels โปรโมทสินค้าแทนการโพสต์แบบปกติ
        • สร้างวิดีโอแบบสั้นที่ดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้ผู้ชมอยากดูต่อ
        • ใส่คำอธิบายภาพ (Caption) ที่น่าสนใจ กระตุ้นให้คนดูอยากติดตาม และติดปุ่ม CTA ให้ชัดเจน กดง่าย

2. อย่าลืมเตรียมพัฒนา Facebook Messenger ให้ขับเคลื่อนด้วย AI

การใช้ AI ใน Facebook Messenger ช่วยให้การสื่อสารกับลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ธุรกิจที่ใช้ AI ใน Messenger พบว่าอัตราการมีส่วนร่วมของลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 30% การใช้ AI สามารถช่วยจัดการคำถามและปัญหาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

Tips:

        • ตั้งค่า Chatbot ตอบคำถามลูกค้าอัตโนมัติสำหรับคำถามยอดฮิต
        • ใช้ AI แนะนำสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน
        • วิเคราะห์ข้อมูลการสนทนากับลูกค้าเพื่อนำไปพัฒนาสินค้าและบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

3. การขายสินค้าผ่าน Facebook และ Instagram จะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

การผสาน e-Commerce เข้ากับ Facebook และ Instagram กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ธุรกิจสามารถนำเสนอสินค้าและบริการได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้ ทำให้การซื้อขายสะดวกและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

Tips:

        • อย่าลืมศึกษาการสร้าง Facebook Shop หรือ Instagram Shop
        • ใช้โฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้าไปที่เยี่ยมชมที่หน้าร้าน เช่น การใช้สินค้ายอดนิยม
        • เสนอโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะสำหรับลูกค้าบน Facebook และ Instagram ที่หาไม่ได้จากแพลตฟอร์มอื่นๆ

4. คอนเทนท์จากผู้ใช้งานจริง (UGC) ยังคงเป็นกระแส

UGC หรือ User-Generated Content เป็นเนื้อหาที่สร้างโดยผู้ใช้จริง เช่น รีวิวสินค้า คำติชม หรือรูปภาพ UGC นั้นน่าเชื่อถือและมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากกว่าเนื้อหาที่สร้างโดยแบรนด์ ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมากขึ้น โดย Facebook รายงานว่า UGC มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงกว่าคอนเทนท์ที่สร้างโดยแบรนด์ถึง 6.9 เท่า

Tips:

        • สร้างแคมเปญกระตุ้นให้ลูกค้าสร้างและแชร์เนื้อหาเกี่ยวกับสินค้า
        • นำคอนเทนท์ UGC มาใช้ในการยิง Ads เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
        • ตอบสนองและขอบคุณลูกค้าที่สร้าง UGC ให้ลูกค้าท่านอื่นทราบ

นอกจากเทรนด์เหล่านี้แล้ว ยังมีสิ่งอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องจับตาดูในโลกของ Facebook Ads ตัวอย่างเช่น Facebook กำลังทดสอบคุณสมบัติใหม่ ๆ อยู่เสมอ และอัลกอริทึมการโฆษณาก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือต้องติดตามข่าวสารล่าสุดและปรับกลยุทธ์ของคุณให้เหมาะสม

แต่ถ้าหากอยากได้ตัวช่วยในการขายของออนไลน์คุณภาพดีแล้วล่ะก็ อย่าลืมมาลองใช้งาน ระบบหลังบ้าน iShip กันนะครับ รับรองว่าช่วยให้การขายของออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้นอยากแน่นอนครับ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ Facebook IShip ระบบจัดการรวมขนส่งออนไลน์ ได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น.

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก

    • https://megadigital.ai/en/blog/facebook-ad-trends/

SHARE