เจ้าของธุรกิจต้องรู้! อยากตั้งราคาสินค้า ต้องดูที่อะไรบ้าง

5 กลยุทธ์การตั้งราคาที่เจ้าของกิจการต้องรู้

1. ประเมินศักยภาพของราคา

ราคาที่สามารถตั้งได้นั้น ขึ้นอยู่กับต้นทุนในการผลิต โดยต้องประเมินจากปัจจัยที่ส่งผลต่อศักยภาพในการกำหนดราคาระยะยาว เช่น ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการผลิต และหากเป็นร้านค้าออนไลน์ก็ต้องคิดรวมค่าส่งพัสดุ สินค้าที่อาจคงเหลือ รวมถึงความผันผวนของอุปสงค์หรือปริมาณความต้องการของลูกค้าไว้ด้วย

2. วิเคราะห์กลุ่มลูกค้า

ดูว่าลูกค้าของเราให้ความสำคัญกับอะไร การใช้งานได้อย่างยาวนาน การแก้ไขปัญหาได้ หรือความเต็มใจในการจ่าย โดยสามารถวิเคราะห์จากแบบสอบถาม หรือดูจากความชอบของกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากลูกค้าชอบสินค้าที่ใช้งานได้ในระยะยาว เราอาจต้องเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ซึ่งอาจทำให้สินค้ามีราคาสูง แต่จะสามารถตอบโจทย์ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อได้

3. ดูข้อมูลราคาเก่า ๆ

สำรวจจากสถิติเก่าว่าราคาแบบไหนที่สามารถปิดการขายได้เร็วที่สุด หรือทำการเปรียบเทียบจากข้อมูลที่มีอยู่ ว่าสินค้าใด ในราคาไหน ที่ดึงดูดใจลูกค้าได้มากที่สุด

4. สร้างสมดุลระหว่างคุณค่า และเป้าหมายทางธุรกิจ

ในการตั้งราคาสินค้านั้นไม่ได้มีจุดประสงค์อยู่แค่การเพิ่มผลกำไรเท่านั้น แต่ยังสอดคล้องไปถึงเป้าหมายในตลาดของแบรนด์อีกด้วย เนื่องจากตามปกติแล้วสินค้าที่มีราคาแพงมักถูกมองว่าเป็นสินค้าลักชัวรี่ คุณภาพดี และสินค้าที่มีราคาถูกมากจนเกินไปอาจถูกตั้งข้อสงสัยในคุณภาพได้ ดังนั้นการสร้างสมดุลระหว่างราคาที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางธุรกิจของแบรนด์จึงเป็นเรื่องสำคัญ

5. อย่าลืมสำรวจคู่แข่ง

เป็นเรื่องพื้นฐานอยู่แล้วที่ผู้บริโภคจะมองหาความคุ้มค่าที่สุด ซึ่งอาจไม่ใช่การเลือกสินค้าราคาต่ำที่สุดเสมอไป แต่เป็นการเลือกโดยคำนึงถึงคุณภาพของสินค้า และบริการที่สอดคล้องกับราคาเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่น จึงควรสำรวจตลาดคู่แข่งให้ดีว่าจะเอาชนะด้วยราคาที่ต่ำกว่า หรือคุณค่าของสินค้าที่สร้างขึ้น

เมื่อรู้ถึงวิธีสร้างกลยุทธ์การตั้งราคาสินค้าแล้ว ตอนนี้เรามาดูเทคนิคการตั้งราคาสินค้าตามหลักจิตวิทยากันบ้างว่าจะมีอะไรบ้าง

1. ลงท้ายด้วยเลข 9 ทำให้รู้สึกไม่แพงมาก

ตามหลักจิตวิทยาแล้วมีความเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะประเมินราคาด้วยการมองตัวเลขด้านหน้าก่อนเสมอ ดังนั้นเมื่อตั้งเป็นตัวเลข 9 ต่อท้าย โดยที่เลขข้างหน้ายังไม่ขยับเพิ่ม จึงทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความคุ้มของราคาได้มากกว่า

2. เพิ่มอีกนิดได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการอัปไซซ์ หรือซื้อเหมาโหลด

เนื่องจากการตั้งราคาที่ต้องเลือกไซซ์ หรือขนาดเหล่านี้จะไปกระตุ้นการมองหาความคุ้มค่าของมนุษย์ที่พร้อมจะเพิ่มคุณภาพให้แก่สิ่งที่ต้องการ

3. บอกราคาเริ่มต้น สำหรับของที่มีมูลค่าสูง

หากสินค้ามีราคาสูง การบอกราคาเริ่มต้นจะช่วยดึงดูดความต้องการของผู้คนได้มากกว่า เพราะตามจิตวิทยาเมื่อต้องมองราคา คนเราจะโฟกัสเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น จึงควรบอกราคาเริ่มต้นที่สามารถเข้าถึงได้

4. แยกค่าขนส่ง ถ้าทำให้ดูราคาถูกกว่าคู่แข่งมาก

หลายคนอาจคิดว่าการรวมค่าส่งแล้วบอกว่าส่งฟรีจะดูคุ้มค่ากว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วหากรวมแล้วราคาออกมาสูงเกินไป ก็อาจทำให้เกิดการเปรียบเทียบ ซึ่งประโยชน์จากการแยกราคาสินค้ากับค่าส่งพัสดุ คือเมื่อพิจารณาจากการมองครั้งแรก ราคาสินค้าอย่างเดียวจะน่าสนใจมากกว่า

5. ราคาควรจะจำง่าย

หลักการที่สำคัญที่สุดในการตั้งราคาสินค้าคือ การทำให้ลูกค้าคิดน้อยที่สุด ดังนั้นการตั้งราคาที่จำง่ายจะช่วยลดการประมวลผลของการตัดสินใจได้

ลดต้นทุนค่าส่งพัสดุได้ แค่ใช้บริการ iShip

สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ที่กำลังมองหาวิธีลดต้นทุน เพื่อให้สามารถตั้งราคาสินค้าดึงดูดใจลูกค้าได้ เราขอแนะนำ iShip ระบบรวบรวมบริการขนส่งชั้นนำที่ให้ราคาค่าส่งที่ถูกกว่า มีพนักงานมารับพัสดุถึงบ้าน ไม่ต้องเสียเวลาออกไปส่งสินค้าเอง และยังมีระบบคลังสินค้า จัดการสต็อกได้ง่าย ให้คุณได้ค่าขนส่งคุ้มค่า จากพาร์ตเนอร์อย่าง ไปรษณีย์ไทย, Flash Express, J&T Express, DHL, และ Ninjavan ที่ทำการส่งของได้อย่างฉับไว พร้อมจะทำให้ลูกค้าพึงพอใจ ได้ยอดขายพุ่งทะยาน!
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE OFFICIAL : @iship หรือเบอร์โทร 094-413-4565