กลยุทธ์ไม่ลับ! สร้างเพจขายของพร้อมบริหารระบบขายของออนไลน์

รากฐานสำคัญของระบบขายของออนไลน์ ไม่ใช่แค่เปิดหน้าร้านบนแพลตฟอร์มแล้วจะจบ! แต่ต้องรู้จักวิธีสร้างเพจขายของให้มีผู้ติดตาม มียอดคนเข้าถึง เพื่อพัฒนาต่อยอดสร้างรายได้ เพิ่มโอกาสทำยอดขายได้อย่างมั่นใจ อย่างไรก็ตาม การสร้างเพจให้มีครบทุกองค์ประกอบก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับแม่ค้าพ่อขายมือใหม่ แต่ถ้าคุณได้รู้กลเม็ดเคล็ดไม่ลับนี้แล้วล่ะก็ จะสร้างกี่เพจก็ทำได้แน่นอน!

แชร์เทคนิคใช้ข้อมูลจากเพจและระบบขายของออนไลน์

1. ตั้งชื่อเพจให้กระชับ ครบทุกรายละเอียด

เริ่มต้นที่กลยุทธ์สร้างเพจขายของด้วยการตั้งชื่อ ถือเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุดเมื่อค้นหา ดังนั้น การตั้งชื่อให้มีความกระชับ พร้อมใส่ข้อมูล ชื่อสินค้า หรือชื่อแบรนด์ให้ชัดเจน จะช่วยให้คุณสามารถเรียกลูกค้าให้เข้ามากดเยี่ยมชมเพจได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ หากมีคอนเทนต์ที่ดีก็อาจจะช่วยให้เกิดการกดไลก์ กดแชร์ กดติดตาม จนนำไปสู่การเปิดและปิดยอดขายได้แบบทันใจ

2. กำหนดเวลาทองของโพสต์บน Meta Business Suite

ช่วงเวลาของการเผยแพร่โพสต์บนหน้าเพจ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กำหนดการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากวันและเวลาการเล่นโซเชียลตามพฤติกรรมของแต่ละกลุ่มคน ก็จะแตกต่างออกไปตามความสนใจ ดังนั้น การสำรวจพฤติกรรมและใช้เครื่องมือระบบหลังบ้านของเพจ จะช่วยให้แม่ค้าออนไลน์สามารถเข้าใจวันและเวลาที่มี Traffic เยอะ พร้อมแพลนการตั้งเวลาเพื่อโพสต์เนื้อหาได้อย่างเหมาะสม

3. กระจายทำคอนเทนต์ให้มีมากกว่าการขาย

คอนเทนต์ที่ดีไม่ได้มีแค่การขาย แต่เป็นการกระจายทำหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น คอนเทนต์เชิงความรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ คอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ แชร์ทริกการใช้งานหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่ปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ คอนเทนต์สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ เน้นการบริการ ความเป็นมืออาชีพ บอกเล่าความเป็นตัวตนของแบรนด์ให้ตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ชัดเจน และสุดท้ายการเชิญชวนด้วยคอนเทนต์กิจกรรม ให้เกิดการมีส่วนร่วมและการติดตาม ทั้งหมดนี้ถือเป็นองค์ประกอบการทำคอนเทนต์สร้างเพจขายของที่แม่ค้าออนไลน์มือใหม่ไม่ควรพลาด!

4. รูปภาพและงานกราฟิก องค์ประกอบที่ดึงดูดได้มากกว่าที่คิด

บอกต่อเทคนิคสร้างเพจขายของให้ปัง

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คือการถ่ายภาพและสร้างกราฟิกที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นสี การจัดวาง ฟอนต์ ตลอดจนสไตล์การออกแบบกราฟิก โดยทั้งหมดนี้นอกจากคนออกแบบจะเป็นผู้ช่วยสร้างสรรค์แล้ว เจ้าของธุรกิจอย่างเรา ๆ ก็ต้องตรวจงาน และยืนยันในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อหาตรงกลางและยึดถือเป็นสไตล์ดังกล่าว ให้เป็นแม่แบบในการใช้สร้าง Artwork สำหรับแบรนด์และสินค้าในระยะยาว

5. เพิ่มปุ่ม Call To Action สร้างยอดขายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ระบบขายของออนไลน์บนเพจ Facebook มีเครื่องมือให้เล่นเยอะมากกว่าที่คิด และหนึ่งในนั้นคือการสร้างปุ่ม Call To Action บนโพสต์ที่ทำการโฆษณา โดยใส่รายละเอียดสั้น ๆ พร้อมข้อความเชิญชวน เช่น สอบถามเลย แชตเลย จะช่วยให้คนเกิดความสนใจ และสะดวกสบายต่อการติดต่อกับทางร้านค้า แบบไม่ต้องเลื่อนไปหน้าเพจเพื่อหาปุ่ม Inbox นั่นเอง

6. อย่าละเลยข้อมูลโฆษณาที่ได้จากระบบหลังบ้าน

ศึกษา Data ของโพสต์ที่เผยแพร่ในรูปแบบโฆษณา ผ่านข้อมูลเชิงลึกในระบบหลังบ้านของเพจ ที่ให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ใช้ดูภาพประกอบของประสิทธิภาพแคมเปญ โดยจะแสดงทั้งข้อมูลประชากรศาสตร์บนแพลตฟอร์มทั้งการเข้าถึงและความถี่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการใช้ประกอบการพัฒนาแผนธุรกิจและการทำโฆษณา รวมถึงคอนเทนต์ในอนาคต พร้อมปรับปรุงให้ตรงกับความสนใจ และสร้างอิมแพคให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าเดิม

นอกเหนือจากระบบหลังบ้านของ Facebook ที่แม่ค้าออนไลน์ควรให้ความใส่ใจแล้ว ยังมี iShip ระบบขายของออนไลน์ที่ช่วยบริหารร้านค้า ช่วยจัดการโดยตรงเกี่ยวกับสต็อกและออร์เดอร์ได้อย่างมั่นใจ พร้อมบริหารหลังร้านให้เป็นเรื่องง่ายได้แล้ววันนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE OFFICIAL : @iship หรือเบอร์โทร 094-413-4565

SHARE