เมื่อลูกค้าไม่ตอบแชท จิตวิทยาการตามลูกค้าที่ทิ้งตะกร้า “แบบไม่น่ารำคาญ”

หลายครั้งที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องเจอกับปัญหาที่ชวนให้ปวดหัวนั่นคือ ลูกค้าที่ทักมาสอบถามข้อมูลสินค้าอย่างละเอียดแล้วจู่ ๆ ก็หายไปเฉย ๆ โดยไม่แจ้งสาเหตุ หรือลูกค้าที่กดสินค้าใส่ตะกร้าไว้แล้วไม่ชำระเงินต่อจนทำให้ตะกร้าถูกทิ้งร้างในที่สุด ถ้าคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่ และกำลังมองหาวิธีการตามลูกค้าแบบมืออาชีพอยู่ละก็ บอกเลยว่าบทความนี้ช่วยคุณได้แน่นอนครับ!

เราจะมาดูกันว่าการตามลูกค้าที่หายไป หรือที่ทิ้งตะกร้าสินค้าไว้ สามารถทำได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้นโดยไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัด หรือไม่สบายใจด้วยครับ 

เข้าใจ “จิตวิทยา” ของลูกค้า

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีต่าง ๆ ในการตามลูกค้าที่หายไป เราต้องทำความเข้าใจจิตวิทยาของลูกค้ากลุ่มนี้ก่อนครับ ว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาหายไปกลางคัน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ก็มักจะมาจากการที่ลูกค้ายังไม่มั่นใจในตัวสินค้า กำลังลังเลเปรียบเทียบกับร้านอื่น หรืออาจจะแค่ติดธุระด่วนแล้วลืมตอบจริง ๆ ก็เป็นได้ครับ การเข้าใจพฤติกรรมนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกวิธีตอบกลับได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับสถานการณ์

การขายของออนไลน์นั้นต้องอาศัยความเข้าใจ และความใส่ใจในลูกค้าเป็นอย่างมากครับ การตามลูกค้าที่หายไปจึงไม่ใช่แค่การทวงถามให้กลับมาซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาวอีกด้วยนะครับ

เทคนิคการ “ตามลูกค้า” แบบมืออาชีพ (แบบไม่น่ารำคาญ)

เมื่อเราเข้าใจจิตวิทยาของลูกค้าแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะมาดูกันว่าเรามีเทคนิคอะไรในการตามลูกค้าได้บ้าง ซึ่งผมบอกเลยว่าแต่ละเทคนิคที่ผมจะแนะนำไปนั้น นอกจากจะสามารถนำไปปรับใช้กับการขายของออนไลน์ได้จริงแล้ว ยังเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าอีกด้วยครับ

1. ให้เวลาพวกเขา (Time is Everything)

เมื่อลูกค้าทักมาสอบถามแล้วหายไปเฉย ๆ สิ่งแรกที่คุณควรทำคือ “การรอ” ครับ ลองให้เวลาลูกค้าได้ตัดสินใจสักหน่อย ซึ่งโดยปกติแล้วระยะเวลาที่เหมาะสม คือ 24 – 48 ชั่วโมง และเมื่อครบกำหนดแล้วก็ค่อยทักกลับไปสอบถามด้วยประโยคที่ดูเป็นมิตร และไม่เป็นการกดดันลูกค้าจนเกินไป เช่น

    • “ไม่ทราบว่าสนใจสินค้าอยู่ไหมครับ ถ้ามีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยนะครับ ยินดีให้บริการครับ 😊”
    • “แอดมินมาแจ้งโปรโมชันพิเศษครับ สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อวันนี้ รับไปเลยส่วนลด 5% ครับ 🛍️”

การทำแบบนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราเข้าใจ และให้ความสำคัญกับพวกเขา ไม่ได้แค่ต้องการจะขายของเพียงอย่างเดียวนั่นเองครับ

2. เสนอ “โปรโมชัน” หรือ “ข้อเสนอพิเศษ” ที่น่าสนใจ

หลายครั้งที่ลูกค้าหายไป อาจเป็นเพราะพวกเขากำลังลังเลเรื่องราคา การทักไปหาลูกค้าอีกครั้งพร้อมกับเสนอ โปรโมชัน หรือข้อเสนอพิเศษดี ๆ จึงเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาสนใจสินค้าของคุณได้เป็นอย่างดีครับ ลองเสนอส่วนลดพิเศษ จัดส่งฟรี หรือของแถมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มาพร้อมกับการสั่งซื้อสินค้าดูสิครับ อาจทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

เทคนิคนี้เป็นจิตวิทยาการตลาดอย่างหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขากำลังได้รับสิทธิพิเศษ หากไม่ซื้อตอนนี้ก็จะเสียโอกาสไป ทำให้พวกเขาตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้นครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขายของออนไลน์ที่มีคู่แข่งสูง การสร้างความโดดเด่น และเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากครับ

3. แจ้งเตือนสินค้าในตะกร้า

สำหรับลูกค้าที่กดสินค้าใส่ตะกร้าไว้แล้วหายไป วิธีนี้ถือว่าได้ผลเป็นอย่างดีครับ ลองส่งข้อความแจ้งเตือนลูกค้าถึงสินค้าที่ค้างอยู่ในตะกร้า พร้อมกับข้อความที่ดูน่าสนใจ และเป็นมิตร เช่น

    • “แอดมินมาแจ้งเตือนครับ มีสินค้าในตะกร้าของคุณรอการชำระเงินอยู่นะครับ”
    • “อย่าลืมชำระเงินนะครับ! สินค้าในตะกร้าของคุณใกล้จะหมดแล้วน้าาา”

นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มโปรโมชัน หรือข้อเสนอพิเศษเข้าไปในข้อความแจ้งเตือนได้อีกด้วยครับ ซึ่งเทคนิคนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของการตามลูกค้าที่ได้ผลเป็นอย่างดีเลยล่ะครับ!

4. สอบถามอย่างสุภาพ และเป็นมิตร

การทักไปหาลูกค้าด้วยประโยคคำถามที่ดูเป็นมิตร จะทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจที่จะตอบกลับมาครับ ซึ่งอาจจะทำให้คุณได้รู้ถึงปัญหาที่แท้จริงของลูกค้าว่าทำไมพวกเขาถึงหายไป ซึ่งคุณสามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้ครับ

    • “ไม่ทราบว่ายังสนใจสินค้าตัวเดิมอยู่ไหมครับ ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม แอดมินพร้อมตอบให้เสมอเลยนะครับ 🧡”
    • “คุณลูกค้าต้องการให้แอดมินช่วยเรื่องอะไรเพิ่มเติมไหมครับ หรือมีข้อสงสัยอะไรสามารถทักมาถามได้เลยนะครับ ยินดีให้บริการครับ 😊”

การแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จะเป็นการสร้างความประทับใจที่ดี และทำให้การขายของออนไลน์ของคุณดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นครับ

การตามลูกค้าที่หายไปจากการ ขายของออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมล่ะครับ? แค่เราทำความเข้าใจจิตวิทยาของลูกค้า และเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้นแล้วครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่คุณต้องแสดงความจริงใจ และความเต็มใจที่จะให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่นะครับ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ก็ถือว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และเป็นการสร้างฐานลูกค้าในระยะยาวได้เป็นอย่างดีเลยครับ

แต่ถ้าหากอยากฟีเจอร์ระบบหลังบ้านกว่า 100 ฟีเจอร์ ที่สามารถช่วยในการขายของออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีบริการขนส่งในราคาพิเศษ ถูกกว่าไปส่งเองที่หน้าร้าน และยังสามารถเรียกรถเข้ารับฟรีได้ถึงหน้าบ้าน ต้องมาใช้งานระบบ iShip แถมระบบยังใช้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน! สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line: @iShip หรือเพจ Facebook IShip ระบบจัดการรวมขนส่งออนไลน์ ได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น. ครับผม

SHARE