“ไม่ต้องสต็อกของ ไม่ต้องใช้เงินเยอะ” นี่คือคำโฆษณาที่ทำให้หลายคนเข้ามาโลดแล่นในวงการ Dropship ซึ่งเป็นการทำธุรกิจแบบจับเสือมือเปล่า แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จ เรามาลองดูกันดีกว่าว่า Dropship คืออะไร และทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ
ธุรกิจ Dropship คืออะไร?
Dropship คือ การขายสินค้าโดยที่เราไม่ต้องมีสินค้าจริง ไม่ต้องสต็อกสินค้า และไม่ต้องเป็นผู้ผลิตสินค้า เพียงแค่เรานำรูปภาพและคุณสมบัติของสินค้าไปวางขายในร้านค้าของเรา เมื่อมีผู้มาซื้อสินค้า เราก็จะสั่งสินค้าอีกทอดหนึ่ง จ่ายเงิน และผู้ผลิตก็จะส่งของให้แก่ลูกค้าของเราเอง
พูดง่าย ๆ ก็คือ การทำธุรกิจ Dropship ก็เหมือนกับเราเป็นเซลล์ขายของ แต่แตกต่างตรงที่เราไม่มีสินค้าในมือ และไม่ต้องซื้อสินค้าเอาไว้ก่อน จึงมีความเสี่ยงต่ำ โอกาสขาดทุนก็น้อยกว่ารูปแบบอื่น ๆ
นอกจากการนำรูปภาพสินค้าไปวางขาย เรายังสามารถสร้างแบรนด์ของเราเอง โดยผู้ผลิตจะติดแบรนด์ของเราไปในสินค้าที่เราวางขาย
ข้อดี-ข้อเสีย ของ Dropship Store
แม้ว่าธุรกิจ Dropship คือธุรกิจที่มีความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำ ก็ใช่ว่าทุกคนจะทำแล้วปัง ขายได้แบบรัว ๆ เพราะทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด มีโอกาสและอุปสรรคให้เราต้องฝ่าฟัน
ข้อดีของ Dropship
แน่นอนว่าข้อดีของ Dropship คือการที่เราไม่ต้องสต็อกสินค้า ไม่ต้องลงทุนเยอะ เรียกว่าถ้าไม่มีใครสั่งสินค้าจากหน้าร้านของเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อสินค้ามากองไว้ที่บ้าน ทุนไม่จม สามารถเลือกขายสินค้าได้หลากหลาย ไม่จำเป็นต้องใช้ทุนเยอะเกินความจำเป็น
นอกจากนี้ ข้อดีของธุรกิจ Dropship ก็คือ ความสะดวกสบาย เพราะเราไม่จำเป็นต้องหาพื้นที่ในการเก็บสินค้า และไม่จำเป็นต้องแพ็กสินค้าเอง เพราะทางผู้ผลิตดำเนินการให้หมดทุกขั้นตอน พูดง่าย ๆ คือ เรามีหน้าที่เปิดร้านแล้วโพสต์ขายเพียงอย่างเดียว
ข้อจำกัดของ Dropship
แม้ว่าธุรกิจ Dropship จะมีข้อดีมากมาย แต่ข้อจำกัดหนึ่งที่เราต้องกาดอกจันเอาไว้ตัวใหญ่ ๆ ก็คือ ยิ่งใช้ทุนน้อยก็ยิ่งมีคู่แข่งมาก เพราะผู้ผลิตจะคิดราคาขายเท่ากัน แต่บางเจ้าก็ไม่ได้กำหนดราคาที่แน่นอน ทำให้การแข่งขันด้านราคาสูงมาก กำไรต่อชิ้นก็น้อยตามลงไปด้วย
เทคนิคการทำ Dropship ให้ประสบความสำเร็จคืออะไร
แม้ว่าจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่สำหรับผู้ที่มีเงินทุนน้อย หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ ธุรกิจ Dropship ก็เป็นธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อย โดยมีเคล็ดลับในการทำ Dropship ให้ประสบความสำเร็จดังนี้
ศึกษาตลาดก่อนลงทุน
ปัจจุบันธุรกิจ Dropship คือธุรกิจที่กำลังเติบโต มีสินค้ามากมายหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า ขนม ของใช้ในครัวเรือน หรือสินค้าอื่น ๆ มากมาย ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าจะขายสินค้าประเภทใด ให้เราศึกษาและดูแนวโน้มของตลาดให้ดีเสียก่อน ควรเลือกสินค้าที่ลูกค้าซื้อซ้ำได้บ่อย ๆ อย่างสินค้าอุปโภคบริโภค ความสวยความงาม สินค้าที่เกี่ยวกับงานอดิเรก หรือ DIY รวมไปถึงสินค้าที่ไม่ได้วางขายทั่วไปตามท้องตลาด
จากนั้นค่อยดูว่าสินค้าที่เราจะขายมีความต้องการในตลาดมากน้อยเพียงใด และกลุ่มลูกค้าของเราอยู่ที่ไหนบ้าง จะได้เปิดร้านค้าได้ตรงจุด ร้านของเราจะได้ไม่ร้าง
ผู้ผลิตมีสต็อกสินค้ามากแค่ไหน คุณภาพเป็นอย่างไร
สิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำคือ คุณภาพของสินค้า รวมถึงบริการหลังการขาย ซึ่งบางอย่างเราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น คุณภาพของสินค้าที่ส่งตรงจากผู้ผลิตไปสู่ลูกค้า เราจึงควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่า สินค้าที่เรากำลังจะวางขายนั้นเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี สมกับราคาหรือไม่ การจัดส่งเป็นอย่างไร มีการรับประกันสินค้าหรือไม่ เคลมง่ายหรือเปล่า และที่สำคัญ คือ มีสต็อกสินค้ามากแค่ไหน เพราะหากเราลงทุนลงแรงโฆษณาขายสินค้าไปแล้ว แต่ไม่มีสินค้า หรือสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ทุกอย่างก็จะสูญเปล่า
ทำการตลาดให้ปังกว่าคู่แข่ง
Dropship คือทางลัดในการทำธุรกิจ เราไม่ต้องเสียเวลาผลิตสินค้า หรือจัดส่งสินค้า สิ่งที่เราทำก็คือ การลงภาพและขายสินค้าให้ได้มากที่สุด ดังนั้น เราจะต้องวางแผนการตลาดอย่างรอบคอบ มีการโปรโมต แจกส่วนลดต่างๆ เพื่อที่เราจะได้นำหน้าคู่แข่ง
ใครที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ การทำธุรกิจ Dropship คือ การเริ่มต้นที่ดี แต่หากต้องการสร้างแบรนด์สินค้า ส่งสินค้าเองแบบไม่ยุ่งยาก สามารถใช้บริการเข้ารับพัสดุถึงที่หรือบริการรับพัสดุถึงบ้านของ iShip ได้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE OFFICIAL : @iship หรือเบอร์โทร 094-413-4565